วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

7. การเขียนโปรแกรมควบคุมการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ควรเลือกใช้ภาษาใด เพราะอะไร

ตอบ การเขียนโปรแกรมเพื่อควบคุมไมโครคอนโทรลเลอร์ (Microcontroller) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ลิฟต์, จอแสดงผล, LED, หัวจ่ายปั๊มน้ำมัน,อุปกรณ์ควบคุมในโรงงาน หรือแม้กระทั่งงานสนุกๆอย่าง Robot ที่ฮิตกันมาก ซึ่งมีภาษาให้เลือกใช้ไม่ว่าจะเป็นภาษา (Assembly หรือ Visual Basic 6.0/2005.)

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2552

6. จงอธิบายลักษณะของภาษาคอมพิวเตอร์ ที่เรียกว่าภาษาธรรมชาติ

ตอบ เป็นภาษาในยุคที่ 5 ที่มีรูปแบบเป็นแบบNONPROCEDURAL เช่นเดียวกับภาษารุ่นที่ 4 การที่เรียกว่าภาษาธรรมชาติเพราะ สามารถสั่งงานคอมพิวเตอร์ ได้โดยใช้ภาษามนุษย์โดยตรง โดยทั่วไปทำสั่งที่มนุษย์ป้อนเข้าไปในคอมพิวเตอร์จะอยู่ในรูปแบบของภาษาพูดของมนุษย์ ซึ่งอาจมีรูปแบบที่ไม่แน่นอนตายตัว แต่คอมพิวเตอร์ ก็สามารถแปลคำสั่งให้อยู่ในรูปแบบที่คอมพิวเตอร์เข้าใจได้ ภาษาธรรมชาตินี้ถูกสร้างขึ้นมาจากเทคโนโลยีทางด้านระบบผู้เชี่ยวชาญ

5. ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกเป็นกี่ประเภท

ตอบ 1. ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ User คือผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป สามารถทำงานตามหน้าที่ในหน่วยนั้นๆ เช่น การพิมพ์งาน การป้อนข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์
2. ผู้จัดการระบบ
3. นักวิเคราะห์ระบบ
4. โปรแกรมเมอร์ คือผู้เขียนโปรแกรมต่างๆ ขึ้นมา เพื่อใช้ในระบบคอมพิวเตอร์

4.ซอฟแวร์ประยุกต์หมายถึงอะไร

ตอบ ซอฟแวร์ประยุกต์ได้รับความนิยมใช้งานอย่างแพร่หลายในทุกวงการ ความนิยมส่วนหนึ่งมาจากขีดความสามารถของซอฟแวร์ประยุกต์นั้นๆ เพราะซอฟแวร์ที่ผลิตออกจำหน่าย ต่างพยามยามแข่งขันกันหลายๆด้าน ซอฟแวร์ประยุกต์มีอยู่มากมายอาจแบ่งได้ 2 ประเภทต่างๆกัน คือ ซอฟแวร์ใช้งานทั่วไป และซอฟแวร์ใช้งานเฉพาะทาง

3.ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์หมายถึงอะไร

ตอบ ใช้ย่อว่า OS หมายถึงระบบปฏิบัติการที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ทั้งหมด รวมทั้งการปฏิบัติงานของโปรแกรมด้วยระบบปฏิบัติการของไมโครคอมพิวเตอร์ จะเรียกว่า ระบบปฏิบัติการแบบใช้จาน ที่มีชื่อโด่งดังอยู่ในขณะนี้ก็คือ MS DOS

2.ROM กับ RAM แตกต่างกันอย่างไร

ตอบ รอมเป็นหน่วยความจำที่บันทึกข้อมูลตายตัวไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ แม้วงจรจะไม่มีกระแสไฟฟ้ามาเลี้ยง ข้อมูลภายในยังอยู่ครบไม่หายไปไหน ซึ่งแตกต่างจาก แรม ตรงที่แรม เป็นหน่วยความจำที่เหมือนสมุดจดบันทึก เป็นหน่วยความจำชั่วคราวที่สามารถทดแทนข้อมูลและคำสั่งใหม่ๆได้ รวมทั้งสามารถขขยายความจุได้มากและข้อแตกต่างสุดท้ายคือ ข้อมูลในแรมจะสูญหายทั้งหมดทันที เมื่อปิดเครื่องหรือไฟดับ

วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ยุคของคอมพิวเตอร์ มีกี่ยุค อะไรบ้าง

ตอบ มี 5 ยุค
ยุคที่ 1. อยู่ระหว่างปีพ.ศ.2488 ถึง พ.ส. 2501 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้หลอดสูญญากาศซึ่งใช้กำลังไฟฟ้าสูง จึงมีปัญหาเรื่องความร้อนและไส้หลอดขาดย่อย ถึงแม้จะมีระบบระบายความร้อนที่ดีมาก การสั่งงานใช้ภาษาเครื่องซึ่งเป็นรหัสตัวเลขที่ยุ่งยากซับซ้อน เครื่องคอมพิวเตอร์ของยุคนี้มีขนาดใหญ่โต เช่น มาร์ควัน อีนิแวค ยูนิแวค
ยุคที่ 2. อยู่ระหว่างปีพ.ศ. 2502 ถึง พ.ศ.2506 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทรานซิสเตอร์ โดยมีแกนเฟอร์ไรท์เป็นหน่ว่ยความจำมีอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำรองในรูปแบบของสื่อบันทึกแม่เหล็ก เช่น จานแม่เหล็ก ส่วนทางด้านซอฟแวร์ก็มีการพัฒนาดีขึ้น โดยสามารถเขียนโปรแกรมด้วยภาษาที่เขียนเป็นประโยคที่คนสามารถเข้าใจได้เช่น ภาษาฟอร์แทน ภาษาโคบอล เป็นต้น ภาษาระดับสูงนี้ได้มีการพัฒนาและใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน
ยุคที่ 3. อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2507 ถึง พ.ศ. 2512 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวม โดยวงจรรวมแต่ละตัวจะมีทรานซิสเตอร์บรรจุอยู่ภายในมากมาย ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ จะออกแบบซับซ้อนมากขึ้น และสามารถเป็นโปรแกรมย่อยๆ ในการกำหนดชุดคำสั่งต่างๆ ทางด้านซอฟแวร์ก็มีระบบควบคุมที่สามรถสูง ทั้งในรูประบบแบ่งเวลาการทำงานให้กับงานหลายๆอย่าง
ยุคที่ 4. อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบัน เป็นยุคของคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวมความจุสูงมาก เช่น ไมโครเซสเซอร์ที่บรรจุทรานซิสเตอร์นับหมื่นนับแสนตัว ทำให้ขนาดเครื่องคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลง สามารถตั้งบนโต๊ะในสำนักงานหรือพกพาเหมือนกระเป๋าหิ้วไปในที่ต่างๆได้ ขณะเดียวกันระบบซอฟแวร์ก็ได้พัฒนาขีดความสามรถสูงขึ้นมาก มีโปรแกรมสำเร็จให้เลือกใช้กันมาก ทำให้เกิดความสะดวกในการใช้งานอย่างกว้างขวาง
ยุคที่ 5. เป็นคอมพิวเตอร์ที่มนุษย์พยามยามนำมาเพื่อช่วยในการตัดสินใจและแก้ปัญหาให้ดียิ่งขึ้น โดยจะมีการเก็บความรอบรู้เข้าไว้ในเครื่อง สามารถเรียกค้นและดึงความรู้ที่สะสมไว้มาใช้งานให้เกิดประโยชน์ คอมพิวเตอร์ยุคนี้เป็นผลจากวิชาการด้านปัญญา ประดิษฐ์ ประเทศต่างๆทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศในทวีปยุโรปกำลังสนใจค้นคว้าและพัฒนาทางด้านนี้กันอย่างจริงจัง